1
คุณเคยเป็นโรคติดมือถือกันไหม..... ไม่ว่าจะกินข้าว อาบน้ำ นอนกลางวัน หลังจากวันนั้น มือถือก็ไม่เคยห่างกายเรา คือพกไว้เฉยๆ ยิ่งเวลาออกไปนอกบ้านไม่กล้าจะหยิบมาเล่นเยอะ กลัวแบตหมด.....
จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ที่กำลังจะออกไปเที่ยวสวนสัตว์ ก็มีโทรศัพท์เข้ามา....
“จากร้านเพนกวิ้นนะคะ ยินดีด้วยนะคะ ทางร้านขอรับคุณเข้าทำงาน แต่ว่า.....” (แต่....ทำไม......)
“นอกจากแผนกขายของแบรนด์เนมแล้ว สามารถทำแผนกอื่นได้ไหมคะ พอดีตอนนี้แผนกขายของใช้ประจำวันกำลังขาดคนเป็นอย่างมาก”
“ได้ค่ะ......ทำค่ะ........” (ให้บุกน้ำลุยไฟหนูก็ทำค่ะ.......)
“งั้นเดียวจะจัดส่งเอกสารไปให้ที่บ้านนะคะ รบกวนเขียนแล้วนำมาวันเริ่มงานด้วย แล้วจะรอมาทำงานด้วยกันนะคะ ขอบคุณค่ะ”
…………
รู้ตัวอีกทีกำลังเขย่าคอเพื่อนที่กำลังจะออกไปเที่ยวด้วยกัน....แล้วบอก ตูได้งานแล่ววววววว
งานเด็กจัดของขึ้นชั้น มันจะไปยากอะไรละ ชิวววว
(ก็คิดไปแบบนั้นโดยไม่รู้ว่าประตูนรกกำลังเปิดออกอย่างช้า....ช้า......)
2
“เปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้วมาตรงนี้นะคะ จะเรียกหัวหน้าแผนกมารับตัวไปสอนงาน” รอบนี้ พนง.สาวที่เป็นคนรับผิดชอบเกี่ยวกับฝ่ายบุคคลเป็นคนส่งเสื้อพนง.ให้ พร้อมรอยยิ้ม
มีหลายคนบอกว่า การทำงานกับคนญี่ปุ่นนั้นเครียด เพราะเค้าจริงจังกับการทำงานมาก ตอนแรกที่รับเสื้อสองตัวนั้นมานั้น เราก็รู้สึกหวั่นๆ อย่างเราจะรับความเครียด และ ความกดดันเหล่านั้นไหวไหมนะ คนร่วมงาน หัวหน้าแผนก จะเป็นคนแบบไหนนะ
หลังจากเปลี่ยนเสื้อเสร็จ สาวฝ่ายบุคคลก็ยกโทรศัพท์แล้วกดปุ่มกระจายเสียงในร้าน เรียกหัวหน้าแผนกขึ้นมาที่ออฟฟิศชั้น 3
“ฝากด้วยนะ” หัวหน้าแผนก (หลังจากนี้จะเรียกสั้นๆว่า บอส) พยักหน้าสั้นๆ บอส เป็นผู้ชายวัยรุ่น หน้าตาดี ใส่แว่น มีแววตาเจ้าเล่ห์แฝงความขี้เล่นอย่างบอกไม่ถูก บอสพาเราเดินวนรอบร้าน ก่อนจะไปจบที่มุมของสีผม ที่มี พนง.หญิงมีอายุตัวเล็กๆ ไต่อยู่บนบันได จัดของอยู่
“เทระซัง นี้พนง.ใหม่”
“สวัสดีค่ะ ชื่อ xxx จากนี้ไปก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” (พูดด้วยรูปสุภาพแบบจัดเต็มมาก)
“โอ้วววว ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ เทระฮาระ เรียก เทระเฉยๆก็ได้ ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นหรอกก ทางนี้มองเด็กๆทุกคนเป็นลูกชาย ลูกสาวหมดแหละ”
“งั้นผมฝากเทระซังดูละกันนะ ไปละ” พูดจบบอสก็เดินจากหายไป.....
“มาๆ หยิบ เคียทัตสึ มาเลย” (อะไรคือ เคียทัตสึ.....) คุณเทระมองหน้าก็น่าจะรู้ว่า ยัยต่างด้าวลูกสาวคนใหม่ของเธอยังไม่เข้าใจภาษาชาวเกาะเป็นแน่
ปากกาดำ ในมือขวาก็เขียนลงฝ่ามือซ้ายทันที “脚立 きゃたつ” และชี้ไปที่บันไดเหล็กที่วางพาดอยู่ใกล้ ด้วยรอยยิ้ม
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เราก็ไม่เคยลืมศัพท์คำนี้ที่เขียนบนฝ่ามือของเทระซังเลย......
3
“ช่วงแรกๆ ก็เดินตามพนง.คนอื่นจัดของไปก่อนนะ แล้วก็จำๆสถานที่วางของกับชื่อสินค้าดู” คุณเทระพูดพร้อมกับรับยาทำสีผมที่เราส่งให้
“ขอโทษนะค่าา ไอโบว อยู่ตรงไหน” ลูกค้าชาวจีนที่เดินมาจากทางด้านหลังส่งเสียงเรียก เทระซังหันตอบทันทีพร้อมรอยยิ้ม “อายโบว์?” พูดจบเธอก็ลงจากบันได เดินลัดผ่านชั้นเก็บของไปถึงแผนกยา พร้อมชี้ไปที่น้ำยาล้างตายี่ห้อ “อายโบว์” ลูกค้าก้มหัวขอบคุณเล็กน้อย เทระซังก็เดินผ่านร้านกลับไปจัดของที่เดิม
“บางที ลูกค้าน่ะพูดกับเราไม่รู้เรื่องหรอก สำคัญคือหาของให้เค้าให้ได้ คนจีนเยอะนะ เนี่ยจำคำไว้เลย “เม่ยโยวๆ” แปลว่าไม่มี ใช้บ่อย 5555” พูดจบเธอก็ปีนกลับขึ้นไปจัดของบนชั้นวางของต่อ
เนื่องจากของในร้านเพนกวิ้นนั้นเยอะมาก ชั้นวางของก็เปรียบเหมือนเขาวงกต เราใช้เวลาถึง 2 อาทิตย์ในการจำของทั้งหมดในส่วนรับผิดชอบของเรา หลังจากจำได้แม่นแล้ว ก็ไปอวดกับขุ่นแม่ประจำแผนก
“เทระซังงงง หนูจำของได้หมดละนะ”
“โอ้วววว เก่งมากเลย.....แต่ว่านะ”
“หืม???”
“เค้าจะย้ายที่วางของใหม่ในร้านหมดเลยอาทิตย์นี้น่ะ บางอย่างย้ายขึ้นไปอยู่อีกชั้นด้วย....พยายามเข้านะ!!”
What…………………….
つづく
Comments
Post a Comment