1
คุณคิดว่า การมาอยู่ต่างประเทศ สิ่งที่ยากที่สุดคืออะไร....
การหางานหรอ? (ไม่ใช่หรอก เพราะของแบบนี้มันมีรูปแบบของมัน ถ้าหาไม่ได้ก็หาต่อไป.....)
อ่า....การติดต่อราชการ? (ชาวเกาะเดียวนี้พัฒนา ถึงขั้นมีอาสาสมัครแปลและช่วยเขียนเอกสารกับชาวต่างชาติ รวมถึงช่องพิเศษด่วนสำหรับต่างชาติในบางเขตด้วย....)
ซื้อของ? ไปรพ.? เดินทาง?
ทั้งนี้ทั้งนั้นสามารถหาได้จากอ.กูเกิ้ลหมด......แล้วสิ่งที่ยากที่สุดสิ่งหนึ่งนั้นคืออะไรละ.....
สำหรับข้าพเจ้าแล้ว....มันคือการไปตัดผม...........
ถ้าใครคิดว่าการตัดผมที่เกาะแห่งนี้มันง่ายละก็ ข้าพเจ้าจะขอสาธยายให้ฟัง....แล้วท่านอาจจะรู้ว่าทำไม...
หนึ่งในกิจกรรมที่เวลามีเวลากลับประเทศเด็กที่อยู่เกาะแห่งนี้ถึงไปตัดผมกัน....
2
ปัจจัยแรกนั้นคือ ราคา การตัดผมที่เกาะนี้ มีค่าใช้จ่ายสูงมากในร้านซาลอนราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 4000¥ หรือตามร้านตัดผมด่วนจะอยู่ที่ 1000¥ (ไปตัดทีนี้.....แทบจะล้มละลาย) แต่ทั้งนี้ การตัดและทำสีในคราวเดียวกับใช้ค่าใช้จ่ายถูกกว่าที่ไทยนะ (ประมาณ 3000 บาท ) เพราะที่นี้ทำสีผมดีมาก และ ชาวเกาะนิยมย้อมผมกันด้วย......
ขั้นแรกของการเข้าไปตัดผมคือ เลือกร้านก่อน......เนื่องจากเราไม่ใช่คนแต่งตัวอะไรเยอะ เลยขอเลือกร้านที่อยู่ใกล้บ้าน ไปมาสะดวก......
เมื่อย่างเท้าเข้าไปในร้าน ให้หันไปหาโต๊ะที่มีพนักงานต้อนรับก่อน เพื่อสอบถามว่ามีช่างคนไหนว่าอยู่ไหม ถ้าไม่มีก็จะเป็นการนัดเวลาแทน
เมื่อได้คิวเรียบร้อยแล้วสิ่งถัดมาคือ ต้องกรอกแบบสอบถาม.....
เนื้อหาภายในแบบสอบถามก็จะเป็นแบบ ตัวเองเป็นคนแบบไหน ทำไมถึงอยากตัดผม อยากเปลี่ยนบุคตัวเองแบบไหน ปกติใช้แชมพูแบบไหนสระผม ฯลฯ
เมื่อทำแบบสอบถามเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาคือ เราจะได้พบกะช่างประจำตัว...ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าไม่เปลี่ยนร้าน เราก็จะตัดกับช่างคนนี้ต่อไปเรื่อยๆ
3
เมื่อรู้จักกับช่างของเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็ทำการเชิญเราไปสระผม แต่....การสระนั้นนุ่มมือมากก และมีการนวดคอให้ด้วยไปพลางๆ เอาซะเกือบเคลิ้มหลับเลยทีเดียว.....
จากนั้นเมื่อถูกนำตัวกลับมานั่งที่แล้ว จะเป็นการพูดคุยกันว่า ต้องการทรงแบบไหน
นี้ละ...จุดที่ยากที่สุดของการอยู่เกาะ คือ ภาษาไทยนี้บางทียังคุยกะช่างไม่รู้เรื่องแล้วออกมาเป็นทรงตามใจช่างอยู่เรื่อยไป.....แต่ช่างชาวเกาะของเรานั้นจะถามละเอียดมากกกกกกกกกกกกกกกก (ก.ล้านตัว) ถ้ามีแบบทรงผมจะดีมาก (ซึ่งทางนี้ก็จะเตรียมไปตลอด) เมื่อดูแบบก็จะเป็นการคุยกันว่าจะเอามาประยุกต์ตัดกับหัวของเรายังไง จะตัดข้างหลังออกเท่าไหร่ มีการทำเลเยอร์ผมกี่ชั้น...ผมหน้าม้าด้านหน้าต้องการอยู่ในระดับไหน ถ้าเอียงคอผมจะอยู่ประมาณไหน
โดยทั้งนี้ระหว่างการตัด ช่างก็จะค่อยๆตัดแล้วเช็คกับเราอยู่เรื่อยๆว่าแบบนี้โอเคไหม โดยจะแบ่งผมออกเป็นช่อๆแล้วค่อยๆตัด ทำให้เวลาตัดผมที่นี้นั้นกินเวลาเกือบ 2 ชม.ในแต่ละครั้ง (เฉพาะ สระ ซอย)
คือเป็นการตัดผมที่ใส่รายละเอียดมาก....มากจนทำเอาคิด โอเค อย่างน้อยก็คุ้มค่าจ้าง......
4
เมื่อเสร็จกระบวนการตัด ช่างจะพาเรากลับไปที่เคาเตอร์หน้าร้านเพื่อจ่ายเงินและรับบัตร......
บัตรที่ว่า จะถูกมาใส่ในซอง ประกอบด้วย คูปองลดในครั้งต่อไป และ บัตรคูปองแก้ทรงฟรีหนึ่งครั้ง(ใช้ได้ภายในอาทิตย์หนึ่งหลังจากที่ตัด) นามบัตรของช่าง (เอาไว้โทรนัด) บัตรแนะนำเพื่อน (คือถ้าเพื่อนสนใจก็ให้บัตรนี้เพื่อนไป แล้วเพื่อนจะได้ส่วนลดตอนมาตัด) และบัตรสมาชิกประจำตัวเรา (ที่ช่างจะทำแฟ้มข้อมูลบันทึกเอาไว้ว่า ตัดทรงไหนให้เรา เรามีสภาพผมเป็นยังไง ทำสีผมไหม?)
และนี้ก็คือกระบวนการตัดผมที่เกาะในแบบคนที่ไม่ค่อยได้ไปตัดผมเท่าไหร่ ที่รู้สึกชอบก็คือ ช่างตัดผมเราให้เป็นทรงแบบเผื่อยาว คือ ถึงผมจะยาวขึ้น เราก็ไม่ได้ต้องรีบไปตัดใหม่เท่าไหร่ ถือว่าประทัปใจกับการตัดที่นี้มาก (แม้ตัดที ขดหน้าแข้งจะร่วงตามผมก็เถอะ.....)
Comments
Post a Comment